เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับ แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังระดับตำนานทีมชาติอังกฤษ ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลจะสามารถทำคะแนนไล่แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นเป็นจ่าฝูง และคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ในที่สุด
เกมพรีเมียร์ลีก ในวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ทำได้แค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0 และ ลิเวอร์พูล ลงเล่นนัดตกค้างกับ อาร์เซน่อล และลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ไม่ทำให้โอกาสหลุดลอย พวกเขาสามารถเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-0 นั่นทำให้ผลคะแนนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่างลิเวอร์พูล แค่ 1 คะแนนเท่านั้น และทั้งสองทีมมีเกมในพรีเมียร์ลีก ให้ลงเล่นอีก 9 เกม ด้วยกัน ใน 9 เกมนั้น ทั้งสองทีมจะพบกันเองอีก 1 นัดด้วย
เจมี่ คาร์ราเกอร์ กูรูฟุตบอลของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของอังกฤษ กล่าวระหว่างทำหน้าที่จัดรายการว่า “โอกาสในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล มีเท่ากัน เพราะทั้งสองทีมมีเกมที่ต้องเจอกันเองอีกนัด แต่ผมเชื่อมั่นว่า ลิเวอร์พูล จะเป็นทีมที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผมมักจะแสดงความคิดเห็นไปในแนวทางที่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะได้แชมป์ไปครอง”
“ก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากจบเกมที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี ด้วยสกอร์ 2-2 ตอนนั้น ลิเวอร์พูล มีคะแนนตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 11 คะแนน แกรม ซูเนสส์ แสดงความคิดเห็นว่า ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์นะ ซึ่งตอนนั้นผมมองว่า โอกาสของ ลิเวอร์พูล มันจบไปแล้ว และ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังรักษามาตรฐานการเล่นได้เหมือนเดิม ถึงจะมีหลายเกมที่พวกเขาทำคะแนนหล่น จากการแพ้ หรือเสมอ แต่ผมมองว่า แมนฯ เป็นทีมที่ดีมากๆ ดังนั้น ถ้าทำได้แค่เสมอกับคู่แข่ง ก็ถือว่าพวกเขาแพ้ไปแล้ว ”
ด้าน แกรี่ เนวิลล์ ก็แสดงความคิดเห็นผ่านรายการทางพ็อดแคสต์ของเขาว่า ” ลิเวอร์พูล อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ทุกรายการ พวกเขาเพิ่งได้แชมป์ คาราบาว คัพ มา ในทีมเต็มไปด้วยนักเตะแนวรุกที่ยอดเยี่ยม ช่วยทำประตูให้คุณเก็บชัยชนะได้ทุกนัด มีแผงกองหลังที่แข็งแกร่ง, มีผู้รักษาประตูที่เหนียวหนึบ, มีแผงมิดฟิลด์ที่เต็มเปี่ยมด้วยประสบการณ์ อย่าง ติอาโก้, ฟาบินโญ่, เฮนเดอร์สัน รวมถึง มิลเนอร์ และนักเตะชั้นยอดคนอื่นๆ ในทีม ดังนั้น ลิเวอร์พูล จึงมีปัจจัยที่ส่งเสริมให้พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้”
“การที่ผมให้ความคิดเห็นในลักษณะนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่นะ เพราะตลอดเวลา ผมเชื่อมั่นเสมอว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่จะคว้าแชมป์ลีกได้ แต่สิ่งที่ผมมองเห็น ในเกมลีกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่ แมนฯ ซิตี้ ทำได้แค่เสมอและเป็นการเสมอที่ทำประตูคู่แข่งไม่ได้เลย และมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว สำหรับพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีเกมที่พวกเขาทำประตูไม่ได้แค่ครั้งเดียว ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำประตูคู่แข่งไม่ได้เลย ถึง 4 เกม ด้วยกัน นี่แหละคือ ความแตกต่าง”
“ถึงแม้ว่า ในที่สุดแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ เพราะพวกเขามี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือ แต่ผมก็ไม่แปลกใจเช่นกัน หาก ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ”
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของ อาร์เซน่อล ที่แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 2-0 กุนซือของทีมอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ออกมาโวยพรีเมียร์ลีกที่จัดโปรแกรมการแข่งขันของทีมตัวเองแบบหฤโหด
“ผมคงต้องขอบคุณ คนจัดตารางการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ซึ่งถ้าพวกเขาหวังให้ทีมของผมเสียเปรียบแล้ว ผมก็ต้องขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ และถ้า อาร์เซน่อล มีโปรแกรมการแข่งขันในเดือนหน้าแบบเดียวกับเดือนนี้อีก ซึ่งเราต้องเจอ ทั้ง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ ผมเลยต้องออกมาขอบคุณพรีเมียร์ลีกอย่างมากที่จัดให้แบบนี้ ”
“ผมเชื่อมั่นว่า พรีเมียร์ลีก ไม่มีทางที่จะปรับเปลี่ยนโปรแกรมการแข่งขันให้ทีมของผมแน่ๆ อาจมีคำอ้างที่ว่า เรื่องเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับสื่ออย่าง บีที, สกาย หรือ เหตุผลอื่นๆ แต่สุดท้ายแล้ว คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเรื่องนี้คือ อาร์เซน่อล ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมสำหรับทีมของผมเลย”